เรื่องรัก

5 นิสัย "ฆ่า" ชีวิตคู่

5-personality-that-kills-relationship.jpg

บางครั้งมันก็ง่ายแสนง่ายที่คุณและคู่จะสามารถบอกได้ว่าเรื่องระหว่าง “เรา” มันคงต้องจบ ไม่ว่าจะเป็น การนอกใจ นิสัยที่เข้ากันไม่ได้ ทำร้ายกันทางจิตใจหรือร่างกาย แต่บางทีการเลิกรามันก็ช่างเงียบเหลือเกิน อีกหนึ่งคนค่อยๆ หายไป อีกคนหนึ่งก็นั่งงงต่อไป เราควรจะหันหน้าคุยกันหรือจะให้ความสัมพันธ์นี่มันจบไปดี นี่คือ 5 สัญญาณที่บอกได้ว่าความรักระหว่างคุณกับเขามันควรจบแล้ว

 

คุณไม่แคร์อีกต่อไป

ความสัมพันธ์ต้องการการลงทุน ลงทุนให้ความรักมันงอกงาม แต่ถ้าใครคนใดคนหนึ่งพร้อมจะปล่อยปะละเลย เลิกที่จะหันหน้าเข้าหากัน ไม่แคร์อีกต่อไปว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร แต่คุณต้องแยกให้ออกว่าคุณไม่แคร์จริงๆ หรือกำลังประชดฝ่ายตรงข้ามอยู่

 

คุณเหม็นหน้าอีกฝ่าย

ไม่ใช่แค่ไม่ชอบการกระทำของเขาหรือเธอ ความเกลียดของคุณที่มีมันหยั่งรากลึกลงไปในจิตใจ ความนับถือที่คุณมีต่อเขาหรือเธอมันไม่เหลืออีกต่อไป ไม่อยากแม้แต่จะอยู่ใกล้ คุณจะสามารถรู้ได้จากสายตาหรือสัมผัสจากน้ำเสียงที่คุณทั้งคู่ใช้

 

คบกันได้ไม่นาน ทะเลาะกันเรื่องใหญ่ซะแล้ว

โดยปกติแล้ว ความรักแรกเริ่มมักหอมหวานและง่ายที่สุดแล้ว คู่รักทั่วไปจะให้การสนับสนุนกันและกันเป็นอย่างดี อดทนที่จะรอ อดทนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เราไม่ได้หมายความว่าการทะเลาะกันเมื่อคบกันเป็นสิ่งที่ผิด แต่หากมันเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นมีปากเสียงหรือใช้กำลังในช่วงแรกๆ คุณก็มีเกณฑ์จะไปไม่รอดเช่นกัน

 

ให้คุณค่าไม่เท่ากัน

ความรักไม่สามารถชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้หรอก หากความต้องการของคุณทั้งคู่มันช่างสวนทางกันเหลือเกิน ยกตัวอย่างเช่น คุณอยากแต่งงาน สร้างครอบครัว และมีลูก แต่คู่ของคุณกลับไม่อยากมีลูกเพราะคิดว่ามันสิ้นเปลือง

 

ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน 3 สิ่งต่อไปนี้

ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งเคยเขียนหนังสือไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีต้องมี 3 สิ่งด้วยกัน 1. คุณทั้งคู่ต้องซื่อสัตย์และรู้สึกจริงจังกับความสัมพันธ์นี้ 2. คุณจะต้องชอบทำกิจกรรมหรืออยากใช้เวลาร่วมกันเหมือนเพื่อน 3. เคมีที่คุณมีต่อกันจะต้องตรงกันเหมือนคู่รัก ถ้าขาดข้อใดเพียงข้อหนึ่งความสัมพันธ์นี้อาจจำเป็นต้องจบลงแล้วละ เช่น คุณรักคู่ของคุณเหมือนเพื่อนสนิท แต่ไม่เคยรู้สึกมีแพชชั่น ไม่เคยรู้สึกอยากมีเซ็กส์ด้วย เป็นต้น

ความรักกับการปล่อยวาง

photo-1526736054478-78a346854f1b.jpg

มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก  คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน 
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย  ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน 
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า  คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน 
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ  ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด 
เมื่อได้ทราบข่าว  เขาทั้งงงและเสียใจมาก ร้องไห้ไม่กินไม่นอน  ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ   
เวลาผ่านไป  ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น 
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น  มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน  
แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า  เป็นพระ  
จึงบอกว่า "ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า" หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า 
"อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต ในบ้านมีคนป่วยใช่มั๊ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว"
เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่า ตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน 
เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่า"อยากเข้ามา  ก็เข้ามา! "  
เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง 
สีหน้าซีดเซียว  ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ 
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา  พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น 
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ ชายคนนั้น  นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด 
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี  จึงกล่าวว่า "โทรมมากเลยนะ" ชายคนนั้นไม่สนใจ 
หลวงตาบอกว่า"ไม่เชื่อ  ลองมองที่กระจกสิ"ชายคนนั้นไม่สนใจ  
แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น  
ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล   
ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น  มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น 
เขาพบว่า  มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด 
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ  แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว 
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา  เขามองเห็นศพนั้น เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น  แล้วเดินจากไป 
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่  จึงเปิดออกดู  เมื่อพบว่า  เป็นศพ ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น  
พอได้หลุมใหญ่พอสมควร จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป   
จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก 
เขาได้เห็นก็ตกใจ พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 แล้วก็ค่อยๆจางหายไป  เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก   
ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า " ทีนี้เข้าใจรึยัง  ศพนั้นคือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ  ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ 
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน"  
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า "โยมรอดแล้ว  
เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว" ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด ................................................  
*******************************************

คนเราเจอกัน  ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง , ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรักฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย เมื่อมีวาสนา  ไม่ต้องเรียกร้อง  ถึงเวลาก็มาเจอกัน เมื่อสิ้นวาสนา  ก็ต้องจากกัน  รั้งยังไงก็ไม่อยู่ ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ 
คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน  ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า  ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้ ทำดีต่อกันไว้ดีกว่าเพราะไม่มีใครรู้ว่า เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่